การดูแลสุขภาพช่องปากในเด็กวัยแรกเกิด ถึง 6 ปี(วัยทารก-ปฐมวัย)

ปรากฎการณ์ที่พบเป็นปกติ

ภาวะฟันขึ้น

• เมื่อทารกมีอายุ 6-9 เดือน ฟันซี่แรกจะโผล่ขึ้น

• เมื่ออายุ 3 ปี ฟันน้ำนมขึ้นครบชุดทั้ง 20 ซี่

• หน้าที่สำคัญของฟันน้ำนม

   - ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเด็ก

   - รักษาระยะของฟันแท้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

   - ส่งเสริมการพูด ยิ้ม และความมั่นใจในตนเองของเด็ก

พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดปัญหาฟันผุในเด็ก

• การรับประทานอาหารหรือดื่มนมบ่อยเกินไป

• การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือมีความเป็นกรด เช่นน้ำผลไม้ น้ำอัดลม

• การดูดนมจากขวดในตอนกลางคืน

 

ปัญหาที่พบบ่อย

• เจ็บเหงือก ปวด บวม จากภาวะฟันขึ้นในทารก

• ปัญหาฟันผุ ซึ่งเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ฟันซี่แรกของทารก

• ฟันหน้าและกระดูกโดยรอบฟันผิดรูปร่างจากการดูดนิ้วหัวแม่มือติดต่อกันเป็นเวลานาน

• คราบแบคทีเรียสะสมบนผิวฟัน ลิ้นและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก

 

ตรวจสอบพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กๆ ดีพอหรือไม่

1. แปรงฟันภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง                           

2. ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งหลังอายุครบ 4 ปี                          

3. ใช้แปรงฟันสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ที่มีหัวแปรงขนาดเล็กขนแปรงที่อ่อนนุ่ม 

4. มีการแปรงฟันอย่างถูกวิธี                               

*ควรปฏิบัติให้เป็น "ใช่" หมดทุกข้อ*

 

ถาม - ตอบ

1. จะบรรเทาอาการเจ็บเหงือกในขณะที่ฟันกำลังขึ้นได้อย่างไร

     • ให้เด็กกับอุปกรณ์ยางสำหรับเด็กโดยเฉพาะหรือให้ยาบรรเทาปวดชนิดเจลที่ไม่มีแอสไพรินเป็นส่วนผสม

2. เมื่อไรควรจะเริ่มดูแลความสะอาดในช่องปากเด็ก

     • ควรเริ่มตั้งแต่แรกเกิด โดยใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กที่สะอาดชุบน้ำทำความสะอาดคราบนมที่เหลือค้างบนเพดานปาก กราม ลิ้น และทั่วบริเวณในช่องปาก

     • เมื่อมีฟันซี่แรกขึ้น ให้แปรงฟันด้วยนิ้วอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และหัดให้เด็กใช้แปรงสีฟันเมื่อเด็กสามารถยืนได้แล้ว

3. เด็กๆ ควรแปรงฟันเมื่อไร และอย่างไร

     • สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี ยังควบคุมกล้ามเนื้อที่ใช้ในการแปรงฟันไม่ดีพอ ผู้ปกครองควรให้ความช่วยเหลือหรือดูแลเด็กแปรงฟันได้อย่างทั่วถึงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

     • ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำเด็กในการทำความสะอาดบริเวณที่เข้าถึงยาก

     • กำชับให้เด็กบ้วนยาสีฟันทิ้ง อย่ากลืนยาสีฟัน

4. ยาสีฟันชนิดใดที่เหมาะกับเด็ก

    • เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี มักเผลอกลืนยาสีฟันแทนการบ้วนทิ้ง จึงควรใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพราะมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในปริมาณต่ำ มีรสอ่อน และฟองไม่มาก

5. แปรงสีฟันชนิดใดที่เหมาะกับเด็ก

     • เลือกแปรงสีฟันหัวแปรงขนาดเล็ก ขนแปรงอ่อนนุ่มและมีด้ามแปรงที่เด็กจับได้ง่าย ถนัดมือ

6. จะทำอย่างไรหากเด็กไม่ยอมแปรงฟัน

     • ให้เด็กได้เลือกแปรงสีฟันสีสันสดใส รูปแบบน่าดึงดูดใจ ด้วยตนเอง

     • อย่าเพิ่งแปรงฟันให้เด็กทันที แต่ให้เขาทำความคุ้นเคยกับแปรงสีฟันของตัวเองในขณะอาบน้ำก่อน แล้วค่อยๆ พูดกระตุ้นให้เด็กเกิดการอยากแปรงฟันทีหลัง

7. เราควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์เป็นครั้งแรกเมื่อไร

    • เริ่มได้ตั้งแต่เด็กมีอายุครบหนึ่งปี

8. ได้อะไรจากการพบทันตแพทย์ครั้งแรก

     • การตรวจสุขภาพฟันทั่วไป

     • การตรวจวินิจฉัยภาวะเสี่ยงฟันผุ

     • รับคำอธิบายและแนะนำการดูแลสุขภาพฟันเด็กที่ถูกต้อง

     • สร้างความคุ้นเคยในการเข้าพบทันตแพทย์ให้กับเด็ก

 

คำแนะนำ

     1. ควรเลิกดูดนมจากขวดเมื่ออายุครบ 2 ปี ฝึกให้ดื่มนม หรือ น้ำผลไม้จากแก้วตั้งแต่อายุ 8-12 เดือน

     2. ไม่ดื่มนมบ่อยครั้งมากเกินความจำเป็น ควรฝึกให้ดื่มเป็นเวลา

     3. หลีกเลี่ยงการให้เด็กดูดหรือดื่มนมก่อนเข้านอน และควรดื่มน้ำเปล่าตามทุกครั้ง เพื่อลดปริมาณน้ำตาล

     4. ไม่ปรุงแต่งรส หรือ เติมน้ำตาลในนม

     5. หมั่นตรวจดูภาวะฟันผุในช่องปากของเด็ก

     6. ในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี ไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากและควรเก็บให้พ้นมือเด็ก 

 

*ขอบคุณข้อมูลจาก colgateprofessional.com*